หลายคนฝันและต้องการที่จะมีธุรกิจเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นกิจการขนาดเล็กหรือธุรกิจขนาดใหญ่ก็ตาม แม้ว่าการมีธุรกิจเป็นของตนเองในปัจจุบันจะสามารถทำได้ง่ายกว่าเมื่อก่อน แต่ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จได้ง่าย กล่าวได้ว่า เริ่มต้นได้ง่าย แต่ปลายทางไม่ได้ง่ายนะจ๊ะ สังเกตได้จาก มีธุรกิจ กิจการ ร้านค้า เกิดใหม่มากมาย แต่ก็ล้มพับไปเร็วมากเช่นกัน ฉะนั้น หากต้องการจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ที่สามารถเดินทางไปต่อได้ยาวๆ ควรจะสำรวจความพร้อมของตัวเองกันก่อน เรามีไกด์ไลน์คำถามให้คุณลองไปสำรวจถึงความพร้อม ว่ามีมากพอที่จะเริ่มธุรกิจหรือยัง จะไปต่อ หรือพอแค่นี้
1. ทำไมถึงอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ
อันดับแรกเลย เราต้องทำความเข้าใจในเหตุที่แท้จริงของตัวเองให้ได้ก่อน ว่าจริงๆแล้ว เราต้องการจะทำธุรกิจของตัวเองเพื่ออะไรกันแน่ อยากทำจริงๆ มีแรงจูงใจและเป้าหมายที่ชัดเจน หรือเพราะเห็นคนอื่นทำแล้วดี ชีวิตหรู อยู่สบาย จึงอยากทำแบบเขา หากเป็นด้วยเหตุผลหลัง มีความเสี่ยงสูงว่าคุณอาจล้มเลิก จนธุรกิจพัง เพราะทำเพียงแค่อารมณ์ และเมื่อเจอปัญหา หรือไม่เป็นไปอย่างที่คิด บวกกับแรงจูงใจไม่มี ก็ยิ่งทำให้ล้มเลิกกลางคันได้ง่าย
2. ต้องการตอบโจทย์ในเรื่องใดที่มีผลต่อตัวเรา
เมื่อครั้งที่เราอยู่ในฐานะผู้บริโภค ปัญหาที่เรามักจะเจอ และส่งผลกระทบกับเราโดยตรง จากสินค้าหรือบริการ ทำให้เรารู้ว่า อะไรคือโจทย์ และสิ่งที่เราต้องการ คือ คำตอบ ที่ใครอีกหลายคนก็น่าจะคล้ายกับเรา และเมื่อเราเปลี่ยนสถานะ กลายมาเป็นผู้ผลิต หรือผู้ประกอบการ เราจะรู้ว่าอะไรคือสินค้า หรือบริการที่ช่วยแก้ Pain Points เป็นการนำปัญหาของตน มาสู่หนทางในการสร้างธุรกิจ เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เหมือนกับเรา
3. คุณมีความรับผิดชอบแค่ไหน
เพราะเมื่อคุณเริ่มลงมือทำไปแล้ว นั่นไม่ใช่เพียงแค่ตัวคุณเองเท่านั้นแล้ว แต่จะหมายรวมไปถึงทุกคนที่มีส่วนได้เสียกับธุรกิจด้วย ทั้งผู้ร่วมลงทุน พนักงาน หุ้นส่วน และลูกค้า เพราะทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คุณต้องมีความรับผิดชอบ ซึ่งมันจะเป็นสิ่งที่กำหนดอนาคตของธุรกิจ และชื่อเสียงของคุณ
4. คุณเป็นคนยอมรับในความผิดพลาดได้แค่ไหน
ในทุกธุรกิจ ต่อให้เป็นองค์กรใหญ่โตแค่ไหน ก็สามารถมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ไม่ว่าจะ้กิดความผิดพลาดอะไรขึ้น คนที่เป็นผู้นำ จะต้องกล้าที่จะเผชิญ และยอมรับในความผิดพลาดเหล่านั้น และหาหนทางแก้ไขความผิดพลาดให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มัวแต่โทษสิ่งอื่น แต่กล้าที่จะรับผิด และฟังความคิดเห็นของลูกทีม
5. ทักษะที่มี เอื้อประโยชน์และเป็นไปในทางเดียวกันกับธุรกิจหรือไม่
เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วว่า ต้องการจะทำธุรกิจอะไร ก็ต้องมาทบทวนความสามารถของตน ว่ามีความรู้ในเรื่องนั้นมากน้อยแค่ไหน ทักษะที่เกี่ยวข้องและเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจมีไหม ถ้าไม่มีหรือว่าพร่องในเรื่องใด ก็หาความรู้เพิ่มเติม เพื่อนำมาเสริมความแข็งแกร่ง และใช้ต่อยอดในธุรกิจของตน
6. ทักษะด้านการบริหารคนของคุณเป็นอย่างไร
ธุรกิจจะเติบโตไปได้ดี ซึ่งต้องมีแบ็คอัพ ผู้สนับสนุน หรือหุ้นส่วน เพราะต้องยอมรับว่า ในสังคมของมนุษย์ เราทำทุกอย่างคนเดียวไม่ได้ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีผู้ช่วย ผู้ร่วมหุ้น ผู้ร่วมงาน เพื่อเติมเต็มธุรกิจได้เติบโต แต่การทำงานย่อมเกิดความขัดแย้งได้ ซึ่งการบริหารงาน และการบริหารคนของคุณเท่านั้น ที่จะเป็นตัวตัดสิน ว่าคุณจะสามารถประคองให้ก้าวข้ามจุดขัดแย้งได้อย่างไร คุณพร้อมแค่ไหนในการรับมือ และการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ
7. แนวโน้มในการเติบโตของธุรกิจสามารถไปได้ยาวแค่ไหน
อย่างที่รู้กันว่า มีธุรกิจเกิดใหม่มากมาย และโลกของธุรกิจเองก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราจึงควรวิเคราะห์ และมีการวางแผนไว้รองรับกับสถานการณ์ต่างๆ ไว้อยู่เสมอ รวมไปถึงประเมินความเสี่ยงในทุกด้านอย่างละเอียด ตั้งแต่เรื่องการจัดสรรงบประมาณ กลุ่มเป้าหมาย กลไกการตลาด คู่แข่ง และกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อธุรกิจจะได้มีผลประกอบการที่น่าพอใจ และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
8. สถานการณ์ทางตลาดของธุรกิจเป็นอย่างไร
ทำการวิจัยตลาด (Market Research) กระบวนการสำคัญของทุกธุรกิจ เพราะจะช่วยให้เรามีข้อมูลแนวทางสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการ หรือกำลังมองหา รู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งทางการตลาด เพื่อนำไปปรับเป็นกลยุทธ์ ในการตั้งเป้าหมาย และสร้างจุดขายให้กับธุรกิจ ให้มีความโดดเด่น เป็นที่สนใจของผู้บริโภค ยิ่งปัจจุบันมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกมากมาย จึงทำให้ Market Research ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
9. กลุ่มลูกค้าของเราคือใคร
การที่รู้จักว่าลูกค้าของเราคือกลุ่มไหน ช่วงอายุ อาชีพ เพศ ภูมิลำเนา หรือแม้แต่ความชอบ และไม่ชอบอะไร ข้อมูลเหล่านี้ จะช่วยทำให้เรารู้จักลูกค้าได้ดี เพื่อที่จะได้นำมาพัฒนาสินค้า และผลิตออกมาให้ตอบโจทย์ได้ตรงจุดที่ลูกค้าต้องการ
สำหรับใครที่มีแพลนจะเริ่มทำธุรกิจ ลองตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้คำตอบอย่างซื่อตรง และชัดเจน เพื่อจะได้ประเมินตัวเอง ว่ามีความพร้อมที่จะเริ่มลงมือจริงๆไหม หรือมีส่วนไหนที่ต้องปรับปรุง หรือเสริมเข้าไปบ้าง เพื่อเติมความแข็งแกร่ให้กับรากฐานได้อย่างมั่นคงตั้งแต่ต้น เพราะการเริ่มต้นที่ดี ก็เหมือนกับสำเร็จไปแล้วครึ่งทาง