เชื่อว่าหลายคนต้องเคยมีคำถามว่าซื้อบ้านดีหรือไม่ แต่บางคนอาจลังเลว่าจะเช่าบ้านหรือซื้อบ้านดี และอาจมีหลายเสียงที่เห็นพ้องต้องกันวาซื้อดีกว่าเช่า โดยให้ข้อดีของการซื้อบ้าน คือ ได้บ้านเป็นของตัวเอง และสามารถปล่อยให้เช่าหรืออาจขายต่อได้ในอนาคต แถมการซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้อีกด้วย เพราะราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกัน การซื้อบ้านต้องใช้เงินทุนก้อนใหญ่ รวมถึงค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ สำหรับคนที่ยังไม่พร้อมในการแบกรับภาระหนัก หรือคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน ซื้อหรือเช่าบ้านดีกว่ากัน จึงต้องศึกษาข้อมูลให้มากในการเปรียบเทียบ เพื่อเป็นปัจจัยในการพิจารณาระหว่างซื้อบ้านหรือเช่าบ้านดีกว่ากัน ก่อนที่จะตัดสินใจ วันนี้เรามีเหตุผลว่าทำไมการเช่าบ้านอยู่จึงดีกว่าการซื้อบ้าน
1. ความเสี่ยงด้านการเงิน
เมื่อจะซื้อบ้านสักหลัง ทุนทรัพย์เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องคำนึง เพราะไม่เพียงแต่ค่าใช้จ่ายของตัวบ้านเท่านั้น แต่ยังคงมีค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ ตามมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าตกแต่ง วัสดุอุปกรณ์ ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าส่วนกลางที่ต้องจ่ายรายปี ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องผ่อนรายปี ค่าบำรุงรักษาอื่น ๆ ที่อาจตามมาได้เรื่อย ๆ ในอนาคต หลายครั้งที่เรามักจะได้ยินปัญหาสร้างบ้านแล้วงบบานปลาย ดังนั้น หากรายได้ไม่สูงมากพอ หรือไม่มีความมั่นคงทางการเงิน ย่อมมีปัญหาตามมาแน่นอน
ในขณะที่การเช่าบ้านจะมีค่าใช้จ่ายคงที่และตายตัว โดยมีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนมากกว่า ยกเว้นค่าไฟฟ้าและน้ำประปาซึ่งอาจต่างกันไปขึ้นอยู่กับการใช้งานในแต่ละเดือน ทำให้ผู้เช่าสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ที่มีความมั่นคงในทางการเงินมากแค่ไหนก็ตาม
2. ความไม่พร้อมในการแบกรับภาระ
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงาน หรือยังมีรายได้ไม่มั่นคง อาจยังไม่พร้อมที่จะแบกรับภาระมากนัก เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์จะมีค่าใช้จ่ายจุกจิก ค่าซ่อมบำรุง การดูแลรักษา ปรับปรุง การตกแต่ง รวมไปถึงค่าติดตั้งระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ระบบหม้อแปลงไฟฟ้า การติดตั้งสายไฟ และค่าส่วนกลางอื่น ๆ เช่น การติดต่อการไฟฟ้า การประปา เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และคงมูลค่าของบ้านเอาไว้ ซึ่งเป็นงบประมาณที่มากและถือว่าเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อม ในขณะที่การเช่าบ้าน รับผิดชอบเพียงแค่การดูแลสินทรัพย์ในบ้านเช่าไม่ให้เสียหายที่เกิดจากตัวผู้เช่าเท่านั้น โดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบในส่วนเรื่องต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เพราะเป็นหน้าที่เจ้าของธุรกิจปล่อยบ้านให้เช่า
3. มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เลือกมากกว่า
ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เช่ามีการตกแต่งและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกสบายให้ตอบโจทย์กับผู้อาศัยมากขึ้น ทั้งในส่วนของพื้นที่ใช้สอย และ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เป็นตัวเลือกของผู้เช่ามากที่สุด เพิ่มโอกาสให้ผู้เช่าได้มีตัวเลือกที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการ เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และรายได้ที่มี
4. ตลาดอสังหาริมทรัพย์ผันผวนตลอดเวลา
ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีความผันผวน คาดเดาได้ยาก และมีความเสี่ยงสูง เพราะความต้องการในที่อยู่อาศัยไม่มีความแน่นอน จึงเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยากในเรื่องของกำไร-ขาดทุนในระยะยาว ทั้งในส่วนของการซื้อบ้านเพื่อการลงทุน หรือซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย ดังนั้น การเช่าบ้านจึงเป็นการลงทุนไม่มากเกินไป ลดความเสี่ยงที่อาจอยู่ในสถานการณ์ขาลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์
5. ความไม่แน่นอนของถิ่นฐานที่อยู่
สำหรับผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะลงหลักปักฐาน หรืออาศัยอยู่ในถิ่นนั้นนานแค่ไหน โดยเฉพาะผู้ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่เพื่อการประกอบอาชีพ หรือเพราะหน้าที่การงานเท่านั้น อาจมีการโยกย้ายหรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่ได้ตลอดเวลา การเช่าบ้านจึงตอบโจทย์ได้มากกว่าการซื้อบ้าน เพราะสะดวกต่อการย้าย ไม่ต้องยุ่งยากจัดการหาผู้เช่า-ซื้อบ้าน ให้วุ่นวาย
เมื่อพิจารณาตามเหตุผลข้างต้น ทำให้ได้ข้อสรุปว่า การเช่าบ้านดีกว่าซื้อบ้านอย่างไร แต่ไม่ใช่ว่าการซื้อบ้านไม่ดี เพียงแต่ข้อเสียของการซื้อบ้านไม่เหมาะกับผู้ที่ยังไม่พร้อมลงทุน หรือผู้ที่ไม่มีความมั่นคงทางรายได้ รวมไปถึงผู้ที่ไม่มีความแน่นอนในพื้นที่อยู่อาศัย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การจะเลือกซื้อบ้านหรือเช่าบ้านดีกว่ากัน ในที่สุดต้องแล้วแต่การตัดสินใจของรายบุคคล